วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สรุป

สรุป

                เพื่อนเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก ประโยชน์ของการมีเพื่อนสนิท ช่วยทำให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข มีความรู้สึกร่วมกันเข้าใจและรับฟังปัญหา เต็มใจยืนเคียงข้างเมื่อมีปัญหาและพร้อมเป็นที่ปรึกษาหรือให้กำลังใจ การคบเพื่อนต่างเพศจะเป็นการพัฒนาของความสนิทสนม เพื่อทำความรู้จักเรียนรู้ซึ่งกันและกันจนพัฒนาความสัมพันธ์เป็นแบบคู่รักได้ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามการมีคู่รักในวัยเรียนเป็นพฤติกรรมการสนใจเพศตรงข้ามของวัยรุ่น ซึ่งควรระมัดระวังเรื่องการวางตัว เข้าใจธรรมชาติอารมณ์ทางเพศ และมีความเข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศว่าความรักระหว่างหนุ่มสาว ไมใช่จบลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ควรคิดให้ยาวไกลถึงการเลือกคู่ครองและการแต่งงาน เพื่อสร้างครอบครัวด้วย การปฏิบัติตนในการคบเพื่อนต่างเพศจึงเป็นการศึกษาอุปนิสัยใจคอและแนวคิดเกี่ยวกับชีวิต เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตของคู่รักของตน เพื่อความสุขในการใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต

การปฏิบัติตนในการคบเพื่อนต่างเพศ

การปฏิบัติตนในการคบเพื่อนต่างเพศ

                การปฏิบัติตนในการคบเพื่อนต่างเพศ มีดังนี้
                1. การคบกันระหว่างหญิงและชายต้องอยู่ในกรอบของประเพณีและวัฒนธรรมไทย ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกายถูกเนื้อต้องตัวซึ่งกันและกัน
                2. ไม่พูดคุยเรื่องเพศในที่สาธารณะหรือต่อหน้าเพื่อนต่างเพศ ควรรู้จักกาลเทศะ เลือกสถานที่ เลือกบุคคล เลือกเรื่องสนทนาให้เหมาะสม
                3. ใช้ภาษาสุภาพทั้งภาษาพูด และการแสดงออกของท่าทาง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน รู้จักแสดงออกต่อกันอย่างเหมาะสม ไม่พูดคำหยาบ
                4. ไม่อยู่ในที่ลับตาคนตามลำพัง เช่น ภายในห้องนอน หรือในบ้านที่ไม่มีใครอยู่ รวมทั้งการไม่ไปเที่ยวและพักค้างแรมอยู่ด้วยกันสองต่อสองหากจำเป็นไปเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะ เช่น ไปกับญาติ หรือเพื่อนฝูง และไม่ควรแยกตัวออกจากกลุ่ม

ความสัมพันธ์แบบคู่รัก

ความสัมพันธ์แบบคู่รัก

                ความสัมพันธ์แบบคู่รักหรือการมีแฟน เป็นสัมพันธภาพพิเศษระหว่างคนสองคน ซึ่งมีความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด มีความสุขเมื่อได้พบกัน สามารถพูดคุยกันได้อย่างสบายใจในทุก ๆ เรื่องทั้งความสุข ความทุกข์ การใช้ชีวิตประจำวัน มีความสุข มีกำลังใจให้แก่กัน ทำให้การดำเนินชีวิตสดใสราบรื่น
                ความสัมพันธ์แบบคู่รักเกิดขึ้นได้ในหลายลักษณะ สำหรับบางคู่อาจจะเริ่มจากมิตรภาพแบบเพื่อนสนิท เมื่อได้มีโอกาสเรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นความเข้าอกเข้าใจเห็นใจซึ่งกันและกัน เกิดอารมณ์อ่อนไหวอย่างลึกซึ้ง ทำให้มีความรู้สึกพิเศษเกิดขึ้น คือ ความรัก และในบางคู่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน หรือไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เช่น คนสองคน อยู่กันคนละภาคของประเทศไทย ผู้ชายอยู่ภาคเหนือผู้หญิงอยู่ภาใต้ เมื่อมีโอกาสได้พบกันโดยบังเอิญที่ภาคกลาง เช่น กรุงเทพมหานคร อาจถูกตาต้องใจและพัฒนาจนกลายเป็นความสัมพันธ์แบบคู่รักก็มีอยู่หลายคู่เช่นกัน ถ้าคำที่มักได้ยินอยู่เสมอว่า ความรักไม่มีพรมแดน ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคสำหรับความรัก

     รูปแบบความสัมพันธ์แบบคู่รัก
                                                ความรักเหมือนโรคา                          บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินไม่ยล                                                           อุปสัคคะใดใด
                                                ความรักเหมือนโคถึก                         กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป                                 บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
                                                ถึงหากจะผูกไว้                                    ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                                                    บ่หวนคิดถึงเจ็บกาย
                                                                                                                จาก มันทนะพาธา
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

                เมื่อกล่าวถึงความรักจะมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรักพ่อแม่ รักเพื่อน รักญาติพี่น้องหรือแม้แต่ประเทศชาติ รักแผ่นดิน แต่ในที่นี้กล่าวถึงความรักและความสัมพันธ์ของชายหญิงแบบคู่รักซึ่ง มี รูปแบบ ดังนี้
                1. เป็นผู้ที่รู้จักรับและรู้จักให้ตอบแทนทั้งวัตถุสิ่งของ ความห่วงใย และน้ำใจไมตรี ตลอดจนรู้จักให้อภัย
                2. เป็นผู้ที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความซื่อสัตย์ต่อคู่รัก รักเดียวใจเดียว
                3. เป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาและกำลังใจ เพื่อคอยแนะนำและปลอบโยนและชี้แนวทางในการแก้ปัญหาชีวิต
                4. เป็นผู้ที่ให้ความหวังและสร้างอนาคตร่วมกัน เมื่อทั้งคู่มีความพร้อมจะได้แต่งงาน สร้างครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกัน 

  วิธีสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก
                วิธีสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก มี ขั้นตอน ดังนี้
                1) การเกี้ยวพาราสี (Courtship) หรือภาษาชาวบ้าน เรียกว่า จีบกัน โดยชายหนุ่มหรือหญิงสาวพูดจาไพเราะ แสดงภาษาท่าทางให้อีกฝ่ายได้รับรู้เป็นที่พึงพอใจและต้องการมีความสนิทสนมรู้จักเป็นพิเศษ
                2) การมีนัดหรือการนัดพบ (Dating) เป็นแนวทางหนึ่งของการเรียนรู้ในการรู้จักต้นเองและเข้าใจเพื่อนต่างเพศมากขึ้น การสร้างความประทับใจให้แก่กัน รวมทั้งเป็นการฝึกทักษะเข้าสังคม และการสื่อสารกับเพื่อนต่างเพศ ทำให้ได้รู้ข้อดีและข้อบกพร่องของตัวเอง และมีโอกาสศึกษานิสัย ความคิด ความเชื่อ ความสนใจซึ่งกันและกัน โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่ทำร่วมกัน เช่น นัดไปรับประทานอาหาร ดูภาพยนตร์ เที่ยวชายทะเล เป็นต้น สำหรับการมีนัดอาจเกิดก่อน เกิดพร้อมหรือเกิดหลังการเกี้ยวพาราสีก็ได้
                3) การเป็นคู่รัก (Going Steady) เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์พิเศษลึกซึ้งต่อคู่ควงเป็นกรณีพิเศษ หลังจากได้มีการคบกับเพื่อนต่างเพศคนเดียวในระยะเวลาหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
                สิ่งที่ควรระมัดระวังของความสัมพันธ์แบบนี้ คือ การสนิทสนมมากเกินไป หากไม่มีการยังยั้งชั่งใจอาจทำให้มีเพศสัมพันธ์กันได้ และถ้าขาดการป้องกัน อาจทำให้ตั้งครรภ์หรือติดโรคร้ายจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ หรือบางกรณีอาจตกเป็นเหยื่อของการถูกข่าขืนจากคู่รัก (Date Rape) โดยการถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แม้อีกฝ่ายจะไม่เต็มใจ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ผู้ที่ได้รับความเสียหายสามารถแจ้งตำรวจดำเนินคดีกับคู่กรณีได้

การเลือกคู่ครอง
                กระทรวงสาธารณะสุข ได้เสนอแนวทางการเลือกคู่ครองดังนี้
1. ควรมีอายุใกล้เคียงกัน ไม่ควรห่างกันเกิน 10 ปี ควรมีอาชีพและรายได้พอที่จะเลี้ยงตนเองได้
2. มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และบุคลิกภาพที่เข้ากันได้ รู้จักการประนีประนอมยืดหยุ่นกันได้
3. มีความใกล้เคียงกัน หรือไม่แตกต่างกันมากในเรื่องการศึกษา ภูมิหลัง ความสนใจ วัฒนธรรม    ประเพณี สภาพเศรษฐกิจและรสนิยมทางเพศ
4. มีความรักใคร่ผูกพัน มีความปรารถนาดีต่อกัน นับถือและยอมรับรสนิยม บุคลิกภาพ และความบกพร่องซึ่งกันและกัน
5. ไม่ควรหวังว่าอีกฝ่ายจะแก้ไขข้อบกพร่องได้ภายหลังแต่งงาน แต่ควรพิจารณาดูว่าตนเองจะมีบทบาทและให้ความช่วยเหลือผู้อยู่ร่วมกันได้อย่างไร
6. คำนึงไว้เสมอว่ายังมีส่วนของบุคลิกภาพของผู้ที่จะมาเป็นคู่ครอง ที่ยังไม่แสดงออกมายังชัดเจนจนกว่าจะได้มาอยู่ร่วมกัน
7. มีโอกาสรู้จักกันและเข้าใจกันก่อนการสมรสจะช่วยในการตัดสินใจและการปรับตัวได้ภายหลังเริ่มต้นคู่ชีวิต
แหล่งที่มา กระทรวงสาธารณะสุข, 2550 : 18.

  ขอบเขตความสัมพันธ์แบบคู่รัก
                ความรักเป็นเรื่องใกล้ตัววัยรุ่น วัยรุ่นเป็นวัยของการค้นหาตัวเองและทำความเข้าใจกับชีวิต วัยรุ่นบางคนอาจถูกพ่อแม่ตักเตือนเรื่องการคบเพื่อนต่างเพศ เช่น ขอให้ตั้งใจเรียน อย่าเพิ่งมีคนรัก เดี๋ยวจะมีผลกระทบต่อการเรียน เป็นต้น คำเตือนเหล่านี้วัยรุ่นต้องรับมาฟังและพิจารณาถึงขาบเขตความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศ เพื่อให้การคบเพื่อนต่างเพศอยู่ในกรอบประเพณีของสังคมไทย และถูกต้องตามศีลธรรมอันดีงามและที่สำคัญการคบเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่นต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่

ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิท

ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิท

                ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิท เป็นสัมพันธภาพที่เกิดจากการติดต่อสัมพันธ์เชื่อมโยงกันระหว่างคน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยเดียวกัน มีความรู้สึกนึกคิด ความสนใจคล้ายๆ พูดคุยกันรู้เรื่อง มีแรงบันดาลใจเรื่องการเรียนคล้ายกัน ชอบนักร้องคนเดียวกัน ชอบทำกิจกรรมเหมือนกัน ชอบแต่งกายคล้ายกัน จากลักษณะความเหมือนกันหรือความคล้ายกันในหลายๆ อย่าง ทำให้วัยรุ่นเกิดความรู้สึกว่าไปด้วยกันได้ ชอบพอกัน เข้ากันได้ดี ไม่มีความขัดแย้ง จึงเกิดความสนิทสนมกันมากกว่าเพื่อนทั่วๆ ไป เป็นความสัมพันธ์ที่มีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง
                เพื่อนสนิทเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับการสังเกตความสนใจและยอมรับความแตกต่างทางความคิดของเพื่อน สามารถพัฒนาทักษะการเลือกคบเพื่อนเป็นคนสนิท รวมทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น เพื่อนพัฒนาความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทให้แน่นแฟ้นขึ้น

     รูปแบบความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิท
                ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทมี ลักษณะ ดังนี้
                1.เป็นเพื่อนคู่คิด อาจเรียกเพื่อนคู่หู เพื่อนแท้ โดยทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันอย่างเต็มใจ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา ดูหนังสือสอบ ฯลฯ
                2.เป็นคนคอยกระตุ้นเตือน พร้อมด้วยการให้ข่าวสารข้อมูล เช่น เรื่องการบ้าน เรื่องเพื่อน และคอยแนะนำชักจูงไปในทางทีดี เช่น ชวนกันอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ
                3.เป็นผู้ช่วยสนับสนุน โดยเต็มใจในการรับฟัง ปัญหาและเรื่องราวของเพื่อน พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือให้คำแนะนำ เช่น ในเรื่องการเรียนรู้ ปัญหาชีวิต ปัญหาความรัก และการปรับตัวเข้ากับสังคมกลุ่มเพื่อน
                4.เป็นผู้ให้กำลังใจ โดยการให้ความมั่นใจและยอมรับตัวตนที่แท้จริงของเพื่อนอย่างที่เพื่อนเป็นอยู่ พร้อมคอยให้คำติชมเมื่อต้องการเสนอแนะเพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขบางพฤติกรรมของเพื่อนและพร้อมให้คำชมเชยเมื่อเพื่อนทำถูก ทำให้เพื่อนมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
                6.เป็นความผูกพันอย่างลึกซึ้ง ด้วยสายใยแห่งความรักระหว่างเพื่อน ความอบอุ่น เข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นกันเอง ไว้เนื้อเชื่อใจว่าเพื่อนจะไม่ทำร้ายเพื่อน ไม่เปิดเผยความลับ มั่นใจในความซื่อสัตย์และมีความรักต่อกัน

         วิธีสร้างความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิท
                วิธีการสร้างความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทมีดังนี้                1.รู้จักการให้และการรับทั้งสิ่งของและน้ำใจไมตรี
                2.สร้างความใกล้ชิดสนิมสนม
                3.สร้างความประทับใจ
                4.สร้างความคุ้นเคย มีการพูดคุยสม่ำเสมอ อย่างเป็นกันเอง
                5. สร้างความพึ่งพอใจซึ่งกันและกันโดยมองด้านดีของเพื่อน
                6.สร้างความคล้ายคลึงกัน เช่น มีความสนใจดนตรีคล้ายกัน มีค่านิยมรักนวลสงวนตัวเหมือนกัน เป็นต้น
                7.รู้จักชมเชยและให้กำลังใจเพื่อน

          ขอบเขตของความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิท
ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทขึ้นอยู่กับการสื่อสาร ประสารความร่วมมือและการประสานประโยชน์
                1) การสื่อสาร (Communication) ต้องฝึกทักษะเรียนรู้การสื่อสารที่ดี เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกของคนอื่นและเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้าใจความรู้สึกของเราด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนแนวคิด
                2) ประสานความร่วมมือ (Cooperation) ให้ความร่มมือในการทำงานเป็นทีมหรือกลุ่มโดยมีใจที่เปิดกว้างรับความคิดเห็นของเพื่อนที่มองต่างมุม
                3) ประสานประโยชน์ (Compromise) พบกันกึ่งกลางระหว่างความคิดเห็นหรือความต้องการของทั้งสองฝ่าย ให้เกิดสถานการณ์ WIN-WIN

การสื่อสารที่ดี
1. ขึ้นต้นโดยพูดว่า ฉัน.........” โดยพยายามหลีกเลี่ยงการพูดคำว่า คุณ.........” เพราะต้องการเน้นเฉพาะเรื่อง ของตัวเรา เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ขัดแย้ง
2. เลือกเวลาที่เหมาะสมและสถานที่อันเหมาะสม
3. ใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยน สุภาพ และท่าทางที่เป็นมิตร
4. พูดให้ตรงประเด็น คิดก่อนพูดเสมอ
5. รับฟังคำพูดของเพื่อนด้วยความสนใจและตั้งใจฟัง

ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการคบเพื่อนต่างเพศ

               
ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการคบเพื่อนต่างเพ

                การคบเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่นใช่ว่าจะราบรื่นและประสบความสำเร็จในสัมพันธภาพระหว่างกันเสมอไป หลายกรณีวัยรุ่นต้องประสบกับปัญหาจากการคบเพื่อนต่างเพศที่มีผลกระทบต่อตนเองมากน้อยแตกต่างกัน ซึ่งตัวของวัยรุ่นเองไม่ได้คาดคิดไว้ก่อนล่วงหน้า เช่น ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความไม่เข้าใจกัน ปัญหาการมีความสัมพันธ์ทางเพศก่อนเวลาอันควร เป็นต้น ซึ่งเป็นปัญหาที่กล่าวมาอาจเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ อีกทั้งถ้าเป็นปัญหาที่หนักเกินไป วัยรุ่นเองไม่พร้อมที่จะสามารถรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นได้
                ดังนั้น การศึกษาทำความเข้าใจ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนล่วงหน้า ด้วยการเรียนรู้และฝึกทักษะในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดจากการคบเพื่อนต่างเพศ ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มีความจำเป็นสำหรับวัยรุ่นและถือว่าเป็นทักษะของชีวิต ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ 

                1.การคบเพื่อน ต่างเพศไม่ว่าในลักษณะหรือรูปแบบใดก็ตาม ควรระวังตัวมากกว่าปกติ เพราะมีธรรมชาติแตกต่างจากเพศเดียวกับตน การปฏิบัติต่อกันจนเกินเลย เช่น ถูกเนื้อต้องตัวหยอกล้อหรือเล่นกันด้วยความรุนแรง อาจทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจจนตัดความสัมพันธ์จากความเป็นเพื่อนได้ 

                2.เมื่อมีปัญหาความไม่เข้าใจกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพศไม่ราบรื่น จึงไม่ควรแสดงความโกรธต่อกันแต่ควรพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนดำเนินไปได้ด้วยดี                 3.ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจะมั่นคงและยืนนานได้ต้องแสดงความจริงใจ และมีน้ำใจต่อกัน และเปิดเผยตรงไปตรงมา

                4. การเคารพในสิทธิและให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นสิ่งสำคัญที่วัยรุ่นควรปฏิบัติ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพให้สมบูรณ์ และพร้อมเข้าสู่สังคมที่กว้างขึ้นในอนาคต

                5.การยอมรับความแตกต่างระหว่างเพศจะช่วยให้เข้าใจธรรมชาติของกันและกัน สามารถช่วยให้ปรับตัวเข้าหากันได้ดีขึ้น

                6.เมื่อเพื่อนมีปัญหา เกิดความทุกข์ มีความเดือดร้อน หรือไม่สบายใจต้องแสดงความเห็นใจช่วยปลอบโยน เพื่อให้คลายความกังวล และถ้ามีความพร้อมที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาได้ โดยไม่ทำให้ตนเองต้องเดือดร้อนควรรีบช่วยเหลือ เพื่อจะภูมิใจในตัวเราเป็นอย่างมาก

                7.การปฏิบัติและวางตนในฐานะเพื่อนที่ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นยืนนาน

แนวทางในการคบเพื่อนต่างเพศที่เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทย

        แนวทางในการคบเพื่อนต่างเพศที่เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทย
   
           
   สังคมและวัฒนธรรมไทยยึดถือเรื่องการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเหมาะสมในการคบกาสมาคมกันระหว่างชายหญิงมาช้านาน ซึ่งต้องปฏิบัติตนและวางตัวให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป แม้ว่าคนไทยในปัจจุบันจะยอมรับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาใช้มากขึ้น แต่วัฒนธรรมหรือรูปแบบวิถีการดำรงชีวิตบางลักษณะก็ไม่เหมาะสมต่อการนำมาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ นักเรียนในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่งควรยึดถือแนวทางการปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับสภาพสังคมและวัฒนธรรมไทย เพื่อให้เป็นทีชื่นชมและยอมรับของผู้อื่นที่อยู่ในสังคมและวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเรื่องการคบหาสมาคมกับเพื่อนต่างเพศทั้งเพื่อนชายและเพื่อนหญิงจะต้องประพฤติตนให้ถูกต้องเหมาะสมด้วย ซึ่งในที่นี้จะนำเสนอแนวทางการคบเพื่อนต่างเพศที่เหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทย เพื่อที่นักเรียนจะได้รู้และเข้าใจหรือพิจารณานำมาปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อตัวเองในโอกาสต่าง ๆ ดังนี้
                1.การรู้จักวางตัวระหว่างเพศ การตัวที่ดีแสดงถึงการมีมารยาททางสังคมของคนคนนั้นเนื่องจากธรรมชาติของเพศชายและเพศหญิงมีความแตกต่างกันในหลายเรื่อง จึงต้องรู้จักระมัดระวังและวางตัวให้ดี เช่น เพื่อนชายไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวเพื่อนหญิง การจับมือถือแขนหรือการโอบกอดก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรปฏิบัติ ถึงแม้จะสนิทสนมกันเพียงใดก็ตาม เพราะคนทั่วไปมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมของคนไทย เพื่อนหญิงก็เช่นกันไม่ควรกล้าจนเกินงาม โดยเปิดโอกาสให้เพื่อนชายได้ใกล้ชิดหยอกล้าถึงเนื้อถึงตัว เพราะพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ผู้หญิงถูกสังคมมองในแง่ลบได้ง่ายกว่าผู้ชาย ดังนั้น จึงควรวางตัวให้ถูกกาลเทศะของวัยด้วย

                2.การเลือกคบเพื่อนต่างเพศที่ดี เพื่อนต่างเพศมีหลายลักษณะมีทั้งที่เป็นคนดีและไม่ดี จึงควรใช้วิจารณญาณของตนเองในการเลือกคบให้รอบคอบ เพราะจะมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของนักเรียนได้มากหากเลือกคบไม่ถูกต้อง การพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นเพื่อนนั้นควรมองตามสภาพความเป็นจริงที่เหมาะสมกับสถานภาพของตนเอง โดยเฉพาะเรื่องนิสัยใจคอ ความชอบ ความพึงพอใจในพฤติกรรมระหว่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการยึดเหนี่ยวน้ำใจต่อกันไว้ได้ สังคมไทยปลูกฝังเกี่ยวกับการคบเพื่อนไว้ คือ เพื่อนที่ดีจะต้องชักนำพาทั้งเราและเพื่อนไปสู่ทางที่เจริญ ได้แก่ ชักชวนหรือชี้นำกันตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ไม่ชักชวนเพื่อให้เล่นการพนันและเสพสารเสพติด เช่น ดื่มเหล้า เบียร์ หรือสูบบุหรี่ เพื่อนลักษณะนี้ควรคบหาสมาคมและควรปฏิบัติในแนวทางต่อกันดังกล่าวเรื่อยไป เพราะเป็นสิ่งที่ดีที่สังคมยกย่องนับถือและยอมรับ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดคุณค่าในตนเองอีกด้วย

                3.การช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่าเพศ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นลักษณะเฉพาะของความเป็นคนไทย ซึ่งคนไทยมีวัฒนธรรมเรื่องความมีน้ำใจต่อกันมาช้านานจนเป็นที่ยอมรับของชาวโลก ซึ่งการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างเพศก็เป็นสิ่งสมควรปลูกฝังและปฏิบัติต่อกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างเพศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ผู้หญิงจะรู้สึกภูมิใจมาก ถ้าเพื่อนชายของตนเป็นคนดี มีน้ำใจ และอยากคบหาสมาคมไว้นาน ส่วนผู้ชายก็เช่นกันต้องการความมีน้ำใจช่วยเหลือเกื้อกูลจากเพื่อนหญิง ถึงแม้บางครั้งจะไม่แสดงออกถึงความต้องการโดยตรง แต่จะรู้สึกดีถ้าเพื่อนหญิงของตนมีพฤติกรรมเช่นนี้ ตัวอย่างของการแสดงออกถึงความมีน้ำใจด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างเพศ เช่น เพื่อนชายช่วยเพื่อนหญิงถือของ สละที่นั่งให้ อาสาพาไปส่งในที่ปลอดภัย ลุกขึ้นต้อนรับเมื่อเพื่อนหญิงมาหา ส่วนสิ่งที่แสดงถึงน้ำใจที่เพื่อนหญิงมีต่อเพศชาย เช่น ช่วยสอนการบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องอาหารการกิน ช่วยดูแลห่วงใยเมื่อเจ็บป่วย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ นอกจากทำให้สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนมั่นคงยืนยาวแล้ว สังคมภายนอกยังยกย่องสรรเสริญอีกด้วย

รูปแบบของการคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่น


รูปแบบของการคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่น

          การคบเพื่อนต่างเพศมีความสำคัญต่อวัยรุ่นดังที่ได้กล่าวแล้ว ซึ่งในที่นี้จะนำเสนอรูปแบบการคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่นที่มีรูปแบบเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะเพื่อสนิท

                นักเรียนในฐานะที่อยู่ในวัยกำลังศึกษาเล่าเรียน ทั้งอยู่ในระบบ นอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัยต้องพบปะ พูดคุย ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น หรือประสบการณ์กับเพื่อนทั้งเพื่อนเพศเดียวกันและเพื่อนต่างเพศ ซึ่งการคบหาสมาคมกันนั้นย่อมต้องเกิดสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่ให้ความสนใจกับเพื่อนต่างเพศ จะเกิดความพึงพอใจเฉพาะบุคคลในการคบหาสมาคมกับเพื่อนใดคนหนึ่งหรือหลายคน ซึ่งมีความแตกต่างกันจนก่อความสัมพันธ์เป็นเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน ทำกิจกรรมที่ชอบและมีความสนใจร่วมกัน ซึ่งการปฏิบัติในลักษณะที่เด่นชัดที่พบว่า เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถบอกเล่า ปรึกษากันได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีในระดับความสัมพันธ์ตามวัย
การคบเพื่อนต่างเพศเป็นเพื่อนสนิทมีข้อดีคือ ช่วยทำให้รู้จักการปรับตัว วางตัวกับบุคคลที่ไม่ใช่เพศเดียวกับตน ได้ศึกษาเรียนรู้นิสัยใจคอ ช่วยพัฒนาความรู้ ความคิด ประสบการณ์ และสร้างบุคลิกภาพให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เมื่อเจริญเติบโตออกสู่สังคมก็ช่วยลดปัญหาการปรับตัวระหว่างเพศได้มาก เป็นต้น


2.การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะคู่รัก

                การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะคู่รักเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ก็อย่างหนึ่งที่มีขึ้นได้ในวัยรุ่นซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากช่วงนี้วัยรุ่นมีพัฒนาการความเจริญเติบโตขึ้นมาก ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ที่ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ ย่อมมีความปรารถนาต้องการให้ตนเองเป็นที่รักหรือให้ความรัก ความสนใจกับผู้อื่นมากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากพ่อแม่ผู้ปกครองที่เคยมีมา
                ความรักเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกสุข สดชื่น มีกำลังใจ มีคุณค่า และมีพลังในการต่อสู้ เรียนรู้ และทำกิจกรรมของชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา สำหรับการก่อเกิดความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่นในฐานะคู่รักก็เช่นเดียวกัน สามารถสร้างพลังสร้างสรรค์ในวัยรุ่นได้ ถ้ารู้จักรักให้เป็นและวางตัวให้ถูกต้องเหมาะสมตามวัย ชักชวนกันตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อหาความรู้ใส่ตัวให้มากจะได้มีอนาคตที่ดีต่อไป ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของวัยรุ่นที่ควรทำ


3.การคบเพื่อนต่างเพศในฐานะเพื่อนร่วมปฏิบัติงาน

                เพื่อนร่วมปฏิบัติงานที่เป็นเพื่อนต่างเพศ มีส่วนสำคัญต่อการดำรงชีวิตของวัยรุ่นเช่นเดียวกัน ซึ่งเพื่อนลักษณะนี้ถ้าร่วมปฏิบัติงานกันเป็นระยะเวลานานก็สามารถพัฒนาความสัมพันธ์กลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจได้ แต่อย่างไรก็ตามการร่วมปฏิบัติงานกันในระยะเวลาสั้นก็ควรคำนึงถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วย เพื่อให้งานหรือกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ประสบผลสำเร็จลุล่วงตามต้องการ
                การคบเพื่อนต่างเพศที่มาร่วมงานกันต้องอาศัยการเรียนรู้ซึ่งกันและกันที่มากพอในระดับหนึ่งด้วย เช่น ลักษณะบุคลิกภาพ นิสัยใจคอ เพื่อจะได้วางตัวและปฏิบัติต่อกันได้อย่างถูกต้องเหมาะสมไม่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งหรือไม่ลงรอยกันตามมาได้